เทคนิคทำร้านอาหาร
เลขนี้ปัง ตั้งแล้วรวย
ความเชื่อเรื่องตัวเลข
โหราศาสตร์ เป็นสิ่งที่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่โบราณ
การเปิดธุรกิจ ร้านอาหารต่างๆ ก็เช่นกัน
หลายคนนิยมใช้ตัวเลขเป็นส่วนผสมของชื่อร้านหรือชื่อแบรนด์ด้วย วันนี้ MMEC มีเลขมงคลมาฝากให้เลือกกันนะคะ
ตัวเลขได้รับเงินก้อนโต 828,
282, 829, 289, 782, 879 และ 978
ส่วนเลขคู่รวย ถ้าอยากเฮงๆ รวย บริวารเชื่อฟัง
ควรมีคู่เลขเหล่านี้อยู่จะดี
78 87 อำนาจ วาสนาดี
มีทรัพย์มาก สามารถดูดเงินก้อนใหญ่
56 65 เลขเศรษฐี
ความอุดมสมบูรณ์เพียบพร้อมครบ การงาน การเงิน ความรัก บริวารดีไปหมด
36 63 พูดจาน่าฟัง เหมือนมีสาลิกาลิ้นทอง
มีโชคการงาน การเงิน มีเสน่ห์มั่นใจ มีเงินติดกระเป๋ามากมาย
28 82มีเงินก้อนใหญ่
มีเสน่ห์ในหมู่บริวารมากมาย เป็นที่ต้องตาต้องใจ
26 62 วาจาดูดทรัพย์ มีสเน่ห์
พูดอะไรเป็นเงินเป็นทอง
15 51 เลขที่ช่วยการเงินโดยตรง
ปัจจัยภายนอกดี ส่งเสริมให้เงินทองไหลมาเทมา หากนำไปตั้งต่อท้าย ขึ้นต้น
หรือรวมอยู่ในชื่อ เชื่อว่า ต้องเฮงๆ อย่างแน่นอน
แหล่งข้อมูล
dip.go.th
เปิดร้านอาหารให้รุ่ง อย่ามุ่งแต่ยอดขาย ต้องคิดต้นทุนให้เป็นด้วย
ต้นทุนร้านอาหาร
แบ่งเป็น 4 ส่วนแบบเข้าใจง่ายๆ
1. วัตถุดิบ
ได้แก่ ข้าว เนื้อ ผัก ไข่ กล่องใส่อาหาร และวัตถุดิบต่างๆ
2. ค่าแรง
พนักงาน ค่าแรงของเจ้าของร้านเอง
ซึ่งเราต้องกำหนดเงินเดือนหรือค่าแรงรายวันให้ตัวเองด้วย
3. ค่าบริหารจัดการอื่น
ๆ ได้แก่ ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ
แก๊สหุงต้ม รถยนต์ (ค่าเสื่อม
ค่าน้ำมัน) ค่าโทรศัพท์ ค่าโฆษณา
หรือถ้าใช้การยิงแอดบนโซเชี่ยล ต้องนำมาคิดด้วย
4. เงินลงทุนเริ่มแรก
ที่ควรเฉลี่ยเป็นต้นทุนต่อปี หรือต่อเดือน เช่น ค่าเซ้งร้าน ค่าตกแต่ง จานชาม เช่นลงทุน 100,000 บาท เราคิดว่าทรัพย์สินที่ลงทุนจะใช้งานได้ 5 ปี ดังนั้น ค่าเสื่อมต่อปีคือ 100,000
/ 5 = 25,000 บาท คิดเป็นรายเดือน 25,000/12 = 2,083
บาท
ข้างต้นเป็นวิธีคำนวณต้นทุนร้านอาหารแบบคร่าวๆ
ที่น่าจะพอช่วยให้พ่อค้าแม่ค้า ที่ทำร้านอาหาร
ได้รู้ว่าในแต่ละเดือนเรามีกำไรประมาณเท่าไหร่
เราควรจะลดต้นทุนอะไรบ้างเพื่อให้ได้กำไร
และยังคงรักษาความพึงพอใจจากลูกค้าไว้ได้
ก้าวทีละขั้น 4 step การทำร้านอาหาร
ก้าวที่ 1 ช่วงเปิดร้านใหม่ๆ หัวใจสำคัญคือต้องมีโปรโมชั่น เป็นช่วงแรกของการเปิดร้านใหม่
ต้องใช้โปรทุกช่องทางให้ลูกค้ารู้จักร้านให้เร็วที่สุด ให้ดังที่สุดในซอย
ก้าวที่ 2 ช่วงมีลูกค้ารู้จักบ้างแล้ว ต้องเน้นการปรับปรุง รับฟังข้อเสนอแนะจากลูกค้า เปิดช่องทางที่ลูกค้าจะเสนอความคิดเห็นต่อเราได้ จุดไหนของร้านไม่ดี ให้ปรับแก้ทุกอย่าง เช่นห้องน้ำ บริการ พนักงานหรือเมนูไหนขายไม่ดีก็นำออก ให้เหลือแต่เมนูที่ขายดี
ก้าวที่ 2 ช่วงมีลูกค้ารู้จักบ้างแล้ว ต้องเน้นการปรับปรุง รับฟังข้อเสนอแนะจากลูกค้า เปิดช่องทางที่ลูกค้าจะเสนอความคิดเห็นต่อเราได้ จุดไหนของร้านไม่ดี ให้ปรับแก้ทุกอย่าง เช่นห้องน้ำ บริการ พนักงานหรือเมนูไหนขายไม่ดีก็นำออก ให้เหลือแต่เมนูที่ขายดี
ก้าวที่ 3 ช่วงอยู่ตัว ให้เน้นไปที่การทำยอดขายให้ได้เยอะๆ ทำโปรโมชั่นสร้างยอดขาย
เปิดช่องทางให้ลูกค้ารู้จักเราให้เยอะที่สุดทั้งป้ายหน้าร้าน โฆษณาบนโซเชียล การทำ delivery การทำไลน์กลุ่ม การแจกใบปลิว
การจัดพื้นที่ให้ลูกค้าได้มานั่งในร้านได้คราวละมากๆ เท่าที่พื้นที่จะอำนวย
ก้าวที่ 4 เติบโตแล้วต้องขยาย มีเรามีฐานลูกค้าแล้ว ให้คิดถึงการขยายสาขา หรือบางแห่งทำเป็นแฟรนไชส์ เรื่องแบบนี้หากเจ้าของร้านอาหารไม่ถนัด
ให้ว่าจ้างมืออาชีพ ที่ปรึกษาด้านแฟรนไชน์ หรือการขยายธุรกิจมาช่วยคิดค่ะ เพราะหลายรายทำร้านของตัวเองได้กำไร แต่พอทำแฟรนไชน์ล้มล้มไม่เป็นท่า
เพราะต้องใช้ทักษะการบริหารที่แตกต่างออกไปอีก
อาหารสุขภาพ delivery ธุรกิจดาวรุ่งเคล็ดลับอาหารเพื่อสุขภาพ
1. ต้องอร่อย
ถึงแม้จะเป็นอาหารคลีน ออแกนิค หรือมังสวิรัติ หรือแม้แต่กึ่งสุขภาพ
อย่างแรกที่เป็นกุญแจสำคัญคือความอร่อย เพราะ
2. ราคาไม่แรง
อันนี้มองในแง่การแข่งขันถือว่ามีคู่แข่งอยู่ปานกลาง
แต่มีแนวโน้มสูงในอนาคตอันใกล้ ปัจจัยราคามีส่วนสำคัญในการตัดสินใจ
3. เปิดตลาดให้คนได้รู้ ยิ่งรู้เยอะยิ่งมีโอกาสขายได้เยอะค่ะ
4. รักษาฐานลูกค้าเก่ง
มีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเก่าและใหม่อยู่เสมอ
5. กล่องอาหารดีเลิศ
เพราะเป็นอาหารประเภทดิลิเวอรี่ กล่องใส่อาหารต้องปิดสนิท ขนส่งง่าย
อาหารไม่เน่าเสีย
ทำไมร้านอาหาร ไปไ่ม่รอด
1. ทำเลไม่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ถึงจะมีคนผ่านไปมาเยอะอยู่ แต่ก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับอาหารที่ขาย ในระยะยาวจึงไปไม่รอด
2. ไม่ให้ความสำคัญกับการบริหารบัญชี ไม่นำต้นทุนมาคำนวณให้รอบคอบ (อ่านเรื่องการคำนวณต้นทุนได้ที่ https://www.mmecpackaging.com/เทคนิคทำร้านอาหาร
3. บริการยอดแย่ แม้จะเป็นร้านอาหารที่อร่อย แต่ถ้าการบริการแย่มากๆ นานไปมีคู่แข่งที่บริการดีกว่า ลูกค้าเข้าแล้วสบายใจมากกว่า แบบนี้ก็ไม่รอดเช่นเดียวกันค่ะ
4. ไม่มีที่จอดรถ ร้านอาหารที่ต้องรอปรุง หรือต้องนั่งรับประทานที่ร้าน หากไม่มีที่จอดรถอย่างเพียงพอ ลูกค้าก็ไม่มาซื้อซ้ำ
5. ไม่ทำการตลาด คิดว่าร้านของตัวเองอร่อยเพียงอย่างเดียวจะขายได้ ธุรกิจร้านอาหารมีคู่แข่งเยอะมากๆ และหลายแบรนด์ลงโฆษณาทางโซเชียล เป็นที่รู้จัก หากร้านของเราไม่ทำการตลาดเลย ส่วนแบ่งตลาดจะตกไปอยู่กับคู่แข่งที่เกิดขึ้นใหม่ทุกวันค่ะ
นอกจากการลงโฆษณาทางโซเชียลแล้ว การให้ความสำคัญกับกล่องอาหารก็ถือเป็นการทำการตลาดอย่างหนึ่ง เพราะกล่องอาหารที่แตกต่าง มีสัสัน และรูปทรงแปลกใหม่ สามารถสร้างการจดจำและสร้างแบรนด์อาหารได้ในระยะยาวค่ะ
กล่องอาหาร เพื่ออาหารของคนรุ่นใหม่คนรุ่นใหม่กินอะไรกันบ้าง
1. อาหารสุขภาพ
เทรนด์ที่มาแรงมากๆ ของคนรุ่นใหม่ นิยมโปรตีนสูง
รสชาติไม่จัดจ้าน ผ่านการปรุงน้อยที่สุด หรือบางคนนิยมเป็นอาหารคลีนไปเลย
เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบออกกำลังกาย
2.หมูกะทะ
เพราะหมูกะทะ เป็นมากกว่าอาหาร นั่นคือคนรุ่นใหม่ต้องการมีประสบการณ์การกิน
ร่วมกับเพื่อนๆ ของพวกเค้านั่นเอง -
3. อาหารที่หน้าดี
คืออาหารที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เพื่อให้บรรดาคนรุ่นใหม่
ได้ถ่ายรูปก่อนรับประทานนั่นเอง
ซึ่งอาหารดิลิเวอรี่ ก็สามารถจัดใส่กล่องให้หน้าตาดูดีได้เช่นกัน
ด้วยกล่องอาหารที่ดูดี มีสีสัน สวย พอดีกับอาหาร
ทำให้การรับประทานมีประสบการณ์ที่น่าประทันใจกว่าเดิม
มือใหม่ เปิดร้านอาหาร
1.
ทำเลร้านที่คนพลุกพล่านอาจไม่ตอบโจทย์ ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น คนที่เดินๆ
กันใช่กลุ่มลูกค้าร้านเราหรือไม่
หรือมีคนผ่านเยอะ
แต่เป็นคนที่เร่งรีบจะไปขึ้นรถต่อ
เราเปิดร้านแบบนั่งทานก็อาจไม่ตอบโจทย์
หรือ
เป็นทำเลที่คน “ผ่าน” จริง
คือหาที่จอดรถไม่ได้ หายาก ก็มักจะผ่านไปเลย ไม่แวะรับประทาน
2.
อย่าจัดโปรโมชั่นเยอะเกินไป
จนกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องพิเศษ
3.
มีสูตรลับความอร่อย
เป็นเมนูของตัวเองบ้าง อย่างน้อยสัก 1-2
เมนู เพราะถ้าลูกค้าอยากรับประทานรสชาตินี้ สูตรนี้ ต้องสั่งร้านเราเท่านั้น
4.
ผูกมิตรกับขนส่ง
หรือพันธมิตรดิลิเวอรี่เข้าไว้
ในช่วงฤดูฝน จะช่วยให้ยอดไม่ตกค่ะ
5.
ต้องรู้จักต้นทุนของตัวเอง รู้ว่าจุดคุ้มทุนอยู่ที่เท่าไหร่และถึงจุดไหนจึงจะได้กำไร
6.
อย่าหวังแต่ยอดขายเยอะทางเดียว การพยายามหาวิธีลดต้นทุนก็สำคัญ เพราะหากลดได้
ยอดขายเท่าเดิม แต่กำไรเพิ่มก็น่าสนใจ
7.
การลดต้นทุน
ทำได้ แต่ไม่ควรลดคุณภาพของตัวอาหาร ควรไปลดที่จุดอื่นๆ
แทนเช่น การลดความยุ่งยากในการสั่งของ
ลดจำนวนพนักงาน ปรับซื้อวัตถุดิบที่ใกล้บ้าน ใช้แพคเกจที่คุ้มค่า เหมาะสมกับอาหาร
